8.5.17

ใจของเราก็เหมือนกัน ใจก็เป็นชื่อของธรรมชาติอันหนึ่งเท่านั้น เป็นสมมติ เป็นสมมติทัย สมมติว่าเป็นใจเฉยๆ ธรรมชาติที่เราเห็นในสมาธิน่ะ ว่างผ่องใสเป็นธรรมชาติอยู่นั่น เขาจึงมาตั้งชื่อ ให้ธรรมชาตินั้นว่าใจ ตั้งชื่อว่าใจแล้วก็เป็นนาม เป็นนามธรรม นามก็แปลว่าชื่อ ชื่อของธรรมชาติอันนั้นใจ

BY Somchatchai IN No comments

..ใจของเราก็เหมือนกัน ใจก็เป็นชื่อของธรรมชาติอันหนึ่งเท่านั้น เป็นสมมติ เป็นสมมติทัย สมมติว่าเป็นใจเฉยๆ ธรรมชาติที่เราเห็นในสมาธิน่ะ ว่างผ่องใสเป็นธรรมชาติอยู่นั่น เขาจึงมาตั้งชื่อ ให้ธรรมชาตินั้นว่าใจ ตั้งชื่อว่าใจแล้วก็เป็นนาม เป็นนามธรรม นามก็แปลว่าชื่อ ชื่อของธรรมชาติอันนั้นใจ

ใจคือนามธรรมเข้าใจมั้ย เป็นชื่อของธรรมชาติที่เราเห็นในสมาธิ เขามาตั้งชื่อว่าใจ ใจจริงๆไม่มี มีแต่สมมติ มีแต่สมมติตั้งชื่อขึ้นเรียก ธรรมชาติอันที่เราเห็น วิญญาณนั่น ว่าใจ ใจก็ไม่มีสัตว์บุคคลตัวตนอยู่ในนั่น มันเป็นเพียงสมมติ

รูปก็เป็นธรรม นามก็เป็นธรรมชาติอันหนึ่ง เมื่อตาเห็นรูปจึงไม่มีใครเห็น เห็นสักแต่ว่าเห็น หูได้ยินเสียงก็ไม่มีใครได้ยิน จิตก็มีหน้าที่รู้ให้ อินทรีย์มีความเป็นใหญ่ในการรู้ เรียกว่ามนินทรีย์

มโน บวก อินทรีย์ ก็เรียกว่ามนินทรีย์ ตามีความเป็นใหญ่ในการเห็น จักขุนทรีย์ อินทรีย์คือความเป็นใหญ่ หูเป็นใหญ่ในการได้ยิน ใจเป็นใหญ่ในการรู้ รู้ให้เฉยๆ มันไม่มีผู้ไปถือเอาสัตว์บุคคล

นี่ล่ะ ถ้าเรามาภาวนา มาสร้างบุญสร้างกุศล กุศลคือความรู้ความฉลาด อันเกิดจากสมาธิปัญญานี่แหละ เรียกว่ากุศลา กุศลาคือกุศล ได้แก่ความรู้ความฉลาดอันได้แก่สติปัญญา จึงว่าจะพานั่งสมาธิ กุศลาให้เจ้าของ..

บางส่วนจาก พระธรรมเทศนา หลวงตาศิริ อินฺทสิริ ๐๘. ณ บ้านจันทร์ส่องธรรม เชียงใหม่ วิถีแห่งภาวนา๑๕ เช้า ๑๔ พ.ย. ๕๘
https://youtu.be/Tp4rJSkQxKs?t=44m57s
(44:57 - 47:34)

0 comments:

Post a Comment