"เชื่ออย่างมีหลักฐานพยาน พระโสดาบัน ไม่ใช่เชื่ออย่างงมงาย"

..ถามอีก เอากองน้ำมา น้ำเลือดน้ำหนองน้ำ 12 อย่างนั่นล่ะ มารวมกันเข้าก็ถามอีก น้ำทั้งหมดนี่เหรอเป็นคน เป็นตัวเป็นตน เป็นเราเป็นเขา ไหนเราอยู่ในน้ำน่ะ ถ้าเราอยู่ในน้ำมันอยู่ยังงัย ถ้ามีคนอนู่ในน้ำหนิ ตรงไหนเป็นคน น้ำตรงไหนเป็นคน

ไล่หา ให้เกิดหลักฐานพยาน "เชื่ออย่างมีหลักฐานพยาน พระโสดาบัน ไม่ใช่เชื่ออย่างงมงาย" ถามลมไฟก็ถามเหมือนกัน ก็ ถามแล้วก็เอามารวมกันดูใหม่ เอามารวมกันอีก เอาหนังมาห่อไว้อีก เป็นก้อนสกลกายขึ้นมา อาการ 32 หนิ หรือธาตุ 4 หนิ รวมกันประชุมกันเอาหนังห่อไว้อีก

อย่าพึ่งรีบ อย่างพึ่งร้อน ช้าเป็นกาลนานเป็นประโยชน์อันนี้ ถามอยู่อย่างงี้แหละ เอามารวมกันแล้ว ก้อนนี้ เค้าก็สมมติว่าก้อนสกลกาย ก้อนสกล สากล แปลว่าทั่วไป ดินก็เป็นธาตุไม่มีเจ้าของ ธาตุแปลว่าของเดิม มูลเก่าของเดิม

น้ำก็เป็นธาตุ ลม ไฟ ก็เป็นธาตุ ไม่มีเจ้าของ ไม่มีคน ไหนคนตรงไหนเป็นคน ถ้าเอามารวมกันแล้วจะเรียกว่าคน เค้าเรียกว่าก้อนสกลกาย คนหนิเค้าสมมติชื่อขึ้นมาเรียกเฉยๆ ต้องรู้สมมติ

แยกออกอย่างนี้ จนเห็นว่าไม่มีตัวตนอยู่ในนี่ ไม่มีสัตว์บุคคลอยู่ในนี่ ถ้าไม่เข้าใจย่อยละเอียดลงไปอีกกว่านี้ทีนี้ เอาแต่ข้างบนลงมา ถอดอาการ 32 ออก..

บางส่วนจาก ๑๕.สังโยชน์ ๑๐ - พระธรรมเทศนาหลวงตาศิริ อินทสิริ
https://youtu.be/7JxAXcywoug?t=13m
(13:00 - 15:06)