..ถ้าสิ้นอาสวะกิเลสแล้วจะไปไหนล่ะทีหนิหือ ไปเป็นอะไร ไปเป็นธรรมชาติ ฉะนั้นเวลาเราเข้าใจว่า อันนี้เรา เหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น เราก็ดับโลก ดับกามาสาวะ ภวาสวะ อวิชชาสวะ คืนรูปธรรมนามธรรม ไม่ต้องมายึดมาถือว่าเป็นเรา เป็นของเรา เข้าใจมั้ยล่ะ สัมมาทิฏฐิ ความเห็นถูกต้อง มันเป็นธรรมชาติ เราก็คืนธรรมชาติให้โลกเขาเสีย
คืนดินน้ำลมไฟให้ธรรมชาติเขาไป คืนวิญญาณให้ธรรมชาติไป เราก็ จิตของเราก็หลุดพ้นจากอาสวะ กามาสวะ ภวาสวะ อวิชชาสวะ แต่กามมันมีขั้นละเอียดมี ถ้าขั้นละเอียดมี ขั้นหยาบก็ต้องมีใช่ไหม ขั้นหยาบมีขั้นกลางมีมรรค 8 หนิเป็นเครื่องปราบกิเลสอย่างหยาบอย่างกลางอย่างละเอียด ที่เรียกว่า สัมมาทิฏฐิ หนิ
กิเลสขั้นหยาบคือ โลภโกรธหลง มันจะเกิดจากทวาร ไปละเมิดทางทวารทั้ง 3 ทวารทั้ง 3 รู้ไหมล่ะทวารทั้ง 3 หือ นึกออกไหม กายทวาร วจีทวาร มโนทวาร บาปอกุศลทั้งหลาย จะไปล่วงละเมิดด้วยทวารทั้ง 3 นี้ เป็นกิเลสอย่างหยาบ ท่านให้เอาศีลปราบ ศีลปราบกิเลสอย่างหยาบ อันได้แก่โลภโกรธหลง ออกจากจิตจากใจ
สมาธิปราบกิเลสอย่างกลาง ได้แก่นิวรณ์ธรรม 5 ออกจากจิตจากใจ ปัญญาปราบกิเลสอย่างละเอียด อันได้แก่อุปาทิ ตัวอุปาทิที่นอนเนื่องอยู่ในจิตสันดาน เรียกว่ากิเลสอย่างละเอียดออก เราก็ จิตของเราก็สว่างไสวผ่องใสเป็นธรรมชาติ เสวยวิมุตติสุขอยู่ชั่วกาลนาน ให้พากันจำเอาไว้เด้อ..
บางส่วนจาก ๑๐. สัมมาทิฏฐิและหน้าที่ชาวพุทธ ๓
พระธรรมเทศนาหลวงตาศิริ อินฺทสิริ วัดถ้ำผาแดงผานิมิต
https://youtu.be/vWQbPQ9WgPs?t=5m43s
(5:43 - 8:01)
12.4.17
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
0 comments:
Post a Comment