ไม่ใช่ว่าทำบุญหลายๆแล้ว มันจะได้ไปสวรรค์นิพพาน ก็หาไม่ ถ้าเราไม่ฝึกจิต ไม่รู้จักวิธีตาย ไม่ฉลาดในการตาย..

ไม่ใช่ว่าทำบุญหลายๆแล้ว มันจะได้ไปสวรรค์นิพพาน ก็หาไม่ ถ้าเราไม่ฝึกจิต ไม่รู้จักวิธีตาย ไม่ฉลาดในการตาย.. หลวงตาศิริ//

..มันเข้ามันออกมันเกิดมันดับอยู่อย่างนี้ ถ้ามันไม่เข้าไม่ออก เราจะทำยังงัย เราจะทำยังงัย เรามีสรณะที่พึ่งรึยัง เราจะพึ่งใคร พึ่งสามีเขาก็หาขันดอกไม้มาขาดกัน ไปเด้อเด้อแม่เด้อ อย่ามากุกๆกักๆกิกๆอยู่ อายบ้านอายผู้อายคนเขา ไปดีสมสุขซะ เขาก็บอกตั้ว ไปเด้อพ่อเด้อนั่นล่ะ ไป ขึ้นสวรรค์ซะก็ว่าตั้ว

จะไปที่ไหนก็ไม่รู้แหล่ว ตอนใจจะขาด ตอนลมหายใจไม่เข้าไม่ออก เขาเรียกว่า อาสันนกรรม กรรมครั้งสุดท้าย เรียกว่ากรรมนิมิต กรรมแปลว่าการกระทำ นิมิตแปลว่าคิด จิตเราทำงานนั่นล่ะ เรียกว่ากรรม มันคิด มันคิดไปถึงอะไรล่ะ อารมณ์ของเรานั่นล่ะ คิดไปถึงเรื่องไหน

เรื่องกุศลหรืออกุศล ตอนนี้แหละเป็นเครื่องตัดสินกันครั้งสุดท้าย อาสันนกรรม กรรมครั้งสุดท้าย กรรมนิมิต คิดไปถึงอะไร ความคิดนั่นแหละคือภพของจิต จิตจะไปตั้งอยู่ในภพนั้น ภพเปรียบเสมือนเนื้อนา วิญญาณเปรียบเสมือนเมล็ดพืช

จิตของเราน่ะ คือเมล็ดพืช มันหล่นไปถูกนาที่ไหน นาอะไรล่ะ ความคิดน่ะ อารมณ์นั่นล่ะคือภพของจิต นั่นล่ะ ไม่ใช่ว่าทำบุญหลายๆแล้ว มันจะได้ไปสวรรค์นิพพาน ก็หาไม่ ถ้าเราไม่ฝึกจิต ไม่รู้จักวิธีตาย ไม่ฉลาดในการตาย..

บางส่วนจาก พระธรรมเทศนา หลวงตาศิริ อินฺทสิริ ณ บ้านจันทร์ส่องธรรม เชียงใหม่ เช้า ๑๔ พ.ย. ๕๘
https://youtu.be/Tp4rJSkQxKs?t=12m52s
(12:52 - 15:35)