พระโสดาบันองค์สุดท้าย เอกพีชี ..นี่ก็จะมาเกิดเพียงชาติเดียวสุดท้าย ถ้าไม่บรรลุตั้งแต่นั่น ก็ใกล้จะตาย จิตมันจะวางปลง สังขาร ว่าสังขารทั้งหลายนั่น ตกอยู่ในกฎไตรลักษณ์ญาณ หรือสามัญลักษณะ เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่ยินดีไม่ยินร้ายในขันธ์ 5 ..หลวงตาศิริ//
..พระโสดาบันองค์สุดท้าย เอกพีชี(เอกะพีชี) เป็นหยังเพิ่นยังว่ามาเกิดเพียงชาติเดียว(ทำไมท่านจึงว่ามาเกิดเพียงชาติเดียว) พระโสดาบันองค์นี้เมื่อความเห็นถูกต้อง เห็นว่ากายก็สักแต่ว่ากาย ไม่ใช่สัตว์บุคคลตัวตนเราเขา ใจก็สักแต่ว่าเขาสมมติตั้งชื่อว่าใจเฉยๆ ไม่ใช่สัตว์บุคคลตัวตนเราเขา
กายกับใจมันทำงาน อิงอาศัยกันเกิด เมื่อตาเห็นรูปก็คือกาย รูปที่เราเห็นก็คือรูปภายนอก ตาก็คือรูปภายในกระทบกัน วิญญาณเกิดขึ้น ก็เรียกว่าขันธ์ 5 เกิด ถ้าผู้ใดสำคัญตนว่ามีสัตว์บุคคลตัวตนอยู่ในขันธ์ 5 ก็ไปอุปาทานเอาขันธ์ 5 ก็เรียกว่าสมุทัย เหตุเกิดทุกข์เท่านั้นน่ะ
ถ้าผู้ใดรู้ว่าขันธ์ 5 ว่างจากสัตว์บุคคลตัวตนเราเขา เป็นสัมมาทิฏฐิ ตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง มันจึงจะดับโลกดับอารมณ์ดับสมมติได้ มันก็ไม่มีอะไรนะ
นี่ก็จะมาเกิดเพียงชาติเดียวสุดท้าย ถ้าไม่บรรลุตั้งแต่นั่น ก็ใกล้จะตาย จิตมันจะวางปลง สังขาร ว่าสังขารทั้งหลายนั่น ตกอยู่ในกฎไตรลักษณ์ญาณ หรือสามัญลักษณะ เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่ยินดีไม่ยินร้ายในขันธ์ 5 สังขารขันธ์ ก็ดี กายสังขารก็ดี จิตสังขารก็ดี ตกอยู่ในกฎธรรมชาติหมด
เวลาจะตายมันจะทิ้ง วางปลงตก วางมันใส่ธรรมดา มีความตายเป็นธรรมดา เราจึงเอาจิตเราไปอยู่ นู้นแหละ กับผู้ไม่ตายนู้นล่ะ เราก็เอาจิตไปอยู่กับสูญญตากับความว่าง อยู่กับอนัตตา มันก็ได้พระนิพพานในชาตินี้
หรือตาเห็นรูป นั่นก็ไม่ใช่เราเห็นนั่นน่ะ มันจะฝึก อบรมบ่มอินทรีย์ พระโสดาบัน อินทรีย์ 6 นั่นน่ะ อบรมบ่มอินทรีย์ เห็นอย่าด่วนว่าเราเห็น พระพุทธองค์ตรัสเอาไว้ ได้ยินอย่าด่วนว่าเราได้ยิน ไม่ใช่มีสัตว์บุคคลตัวตนอยู่ในหูในตาดอก ในขันธ์ 5 ดอก
เราก็ดับความโลภ ความโกรธ ความหลงได้ ก็เข้าสู่พระนิพพานในปัจจุบันชาตินี่แหล่ว จึงมาเกิดชาติสุดท้าย เพียงชาติสุดท้ายก็ไปพระนิพพาน
ถ้าไม่ได้ไปตอนมีชีวิตอยู่ ก็ตอนใจจะขาดนี่แหละมันจะไปพระนิพพาน มันจะวางอารมณ์หมดว่าง เป็นสูญญตา เป็นอนัตตาหมด ไม่มีสัตว์บุคคลตัวตนอยู่ ในกายในตัวเราสักอย่าง
เข้าใจ เอกพีชี เกิดชาติสุดท้าย ทีนี่ ละสังโยชน์ 3 ได้ ที่ว่าสักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาส
ก็บอกแล้ววิธี ธรรม 3 อย่างเกิดขึ้น ธรรม 3 อย่างนี้ก็ดับไป ศรัทธาเกิดขึ้น ตัววิจิกิจฉา ก็ดับไป อริยกันตศีลหรือศีลกุศลกรรมบทเกิดขึ้น สีลัพพตปรามาส ก็ตายไป กิเลสอันนี้ก็ตายไป ปัญญาสัมมาทิฏฐิเกิดขึ้น ความเห็นถูกต้องเกิดขึ้น มิจฉาทิฏฐิความเห็นผิดก็ตายไป เห็นว่าขันธ์ 5 เป็นสัตว์บุคคลตัวตนเราเอานั่น ก็ตายไป มันจะฆ่ากันไปอย่างนี้ เราก็ได้เป็นพระโสดาบัน นี่ละสักกายทิฏฐิได้..
บางส่วนจาก มรรค๔ ผล๔ นิพพาน๑ - พระธรรมเทศนาหลวงตาศิริ อินฺทสิริ
https://youtu.be/mdbTn2UU-_s?t=28m
(28:00 - 32:15)
9.3.17
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
0 comments:
Post a Comment