8.1.17

เมื่อกิเลสเข้าไปผสมจิต จิตจึงกลายเป็นจิตปฏิรูป จิตเทียม จิตสมุทัย ใจปลอม ใจสมมติ จึงเกิดเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เวทนาเกิดแล้วก็ดับ

BY Somchatchai IN No comments

จิตปลอม.. เบื้องต้นก็หลงกาย เบื้องปลายก็หลงใจ กายกับใจนี่แหละเรียกว่าขันธ์ ๕ หลงขันธ์ ๕ เมื่อจิตลงสู่ฐานใหญ่แล้ว เจโตวิมุตติ อัปปานาฌาน อัปปนาสมาธิ หรือว่าเจโตวิมุตติ จะไปเห็นจิตแท้ใจเดิมของเรา รู้ รู้ รู้ ตายไม่เป็น

ส่วนตัวเกิดตัวตายไม่ใช่จิตแท้ใจเดิม เขาเรียกจิตปลอม จิตปฏิรูป จิตเทียม มันเกิดมันดับ จิตปลอม จิตเทียม จิตแท้ใจเดิมมันจะผ่องใสอยู่ เป็นธรรมชาติอยู่

เมื่อกิเลสเข้าไปผสมจิต จิตจึงกลายเป็นจิตปฏิรูป จิตเทียม จิตสมุทัย ใจปลอม ใจสมมติ จึงเกิดเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เวทนาเกิดแล้วก็ดับ สุขเกิดแล้วก็ดับ ทุกข์เกิดขึ้นแล้วก็ดับ ดีใจเกิดขึ้นความเสียใจก็ดับ ความเสียใจเกิดขึ้นความดีใจก็ดับ

ความรักเกิดขึ้นความชังก็ดับ ความชังเกิดขึ้นความรักก็ดับ เราจะเห็นมันเกิดมันดับอยู่อย่างนี้ล่ะ จิตของพระเสขบุคคลมันก็จะเป็นอย่างนี้

จากหนังสือ ธรรมอริยะ ๒
บันทึกโอวาทธรรม ของ หลวงตาศิริ อินฺทสิริ หน้า ๔๓ จิตปลอม

พระเสขบุคคล พระอเสขบุคคล.. พระเสขบุคคล เสขบุคคลคืออย่างไร เสขะ แปลว่าศึกษา แปลว่าปฏิบัติ เสขบุคคลคือบุคคลที่กำลังฝึกหัดปฏิบัติกาย วาจา ใจ ปฏิบัติอยู่เรียกว่า เสขบุคคล มีอยู่ ๗ จำพวก ๗ จำพวกนี้จะเกิดแล้วก็ดับ อารมณ์เกิดแล้วอารมณ์นี้ก็ดับ อารมณ์ใหม่เกิดขึ้นอารมณ์เก่าดับ

เกิดดับเกิดดับอยู่อย่างนี้ ตั้งแต่พระโสดาบัน ๒ พระสกิทาคามี ๒ พระอนาคามี ๒ อรหัตตมรรค ๑ เสขบุคคลคือบุคคลที่กำลังฝึกหัด ปฏิบัติอยู่ มี ๗ จำพวก

องค์ที่ ๘ อเสขบุคคลคือ พระอรหันต์ อะแปลว่าไม่ต้องฝึกหัดปฏิบัติ เรียนจบ ขันธ์ ๕ แล้ว อเสขบุคคล จิตของพระอเสขะไม่ดับนะ มีแต่รู้ รู้ รู้เฉย รู้เฉย รู้ รู้ มันไม่ดับ มันไม่เกิดไม่ตาย

มันเที่ยงไม่เป็นอนิจจัง ไม่เป็นทุกขัง แต่เป็นอนัตตา รู้ รู้ ว่าง สว่างไสวอยู่ อารมณ์ไหนไหลเข้ามามันก็รู้เฉย

จากหนังสือ ธรรมอริยะ ๒
บันทึกโอวาทธรรม ของ หลวงตาศิริ อินฺทสิริ หน้า ๑๒๗ พระเสขบุคคล พระอเสขบุคคล


0 comments:

Post a Comment