24.12.16

พระอริยบุคคลตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไปจึงสมควร ท่านจึงว่า สมควรรับ ถ้าคุณสมบัติของพระไม่พอ ไปรับของเขา ไม่มีบุญให้เขา ก็ต้องไปใช้หนี้ใช้กรรมเขานะ

BY Somchatchai IN , No comments

..ส่วนนิมิตรูปสัตว์ต่างๆ เช่น วัว ควาย สุนัข แมว มีผ่านเข้ามาให้ท่านเห็นประจำ เป็นเพราะจิตผู้นั้นยังต่ำหรือเคยเป็นสัตว์นั้นมาก่อน แต่ยังไม่หมดวิบากกรรม จึงพาให้เห็นในรูปเดิม เช่น คราวที่อยู่วัดป่าสะลวง มีพระจากผาแด่นมาพักที่วัด ท่านได้รับนิมิตว่ามีพระมา 2 องค์ มีลักษณะเป็นควายมานอนอยู่ที่ศาลา

รุ่งขึ้นเช้าเตรียมตัวออกบิณฑบาตได้พบพระ 2 องค์นั้นจริง แต่ยังนอนหลับอยู่บนศาลา ได้ทราบภายหลังว่า พระทั้ง 2 องค์บวชได้ 10 พรรษาแล้ว แต่การภาวนายังไม่ก้าวหน้า เมื่อมีโอกาสเรียนถามหลวงปู่ตื้อ ท่านอธิบายว่าเป็นเพราะจิตไม่ถึงไหน ยังเป็นสัตว์อยู่ จึงเห็นนิมิตอย่างนั้น..

ข้อความบางส่วนจากหนังสือ ประวัติพระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป หน้า 62-63 การออกธุดงค์ครั้งที่ 8 จ.เชียงใหม่
http://www.fungdham.com/book/plien.html

หลวงตาศิริ เทศน์อบรมพระในวัด..

..พระอริยบุคคลตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไปจึงสมควร ท่านจึงว่า สมควรรับ ถ้าคุณสมบัติของพระไม่พอ ไปรับของเขา ไม่มีบุญให้เขา ก็ต้องไปใช้หนี้ใช้กรรมเขานะ ตายไปก็ไปเป็นควายตู้แหล่พระ

ตายไปเป็นคนขอทาน ตายไปเป็นสัตว์นรก เป็นเปรตเป็นผี ไม่ใช่ว่าจะมาได้กิน ญาติโยมเอาข้าว เอาไรใส่ให้ ดีใจว่าเจ้าของได้กิน ถ้าเจ้าของไม่เป็นอริยบุคคล ไม่ได้นะ ต้องเป็นอริยบุคคลขั้นต้นตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป พระต้องเป็นผู้มีกายดีวาจาดีใจดี เป็นผู้มีศีล ภิกษุในธรรมในวินัย เท่านั้นจึงสมควรรับ อาหุนะทาน เป็นบุคคลผู้สมควรรับ ถ้าคุณสมบัติพระต่ำกว่านี้ไม่สมควร กินก้อนทองแดงยังดีกว่า

กินก้อนทองแดงแล้วมันตาย ตายแล้วเกิดมา ปฏิบัติใหม่อีกได้ ถ้ากินข้าวเขาหนิ พระไม่มีศีลไม่มีธรรมไปกินข้าวเขา ไปฉันอาหารบริโภคสิ่งของเขาทานมา มันจะไปใช้หนี้ใช้กรรมนะ ท่านจึงว่า เปรียบเทียบว่ากินก้อนทองแดงยังดีกว่า ฉันก้อนทองแดงยังดีกว่า ไม่ได้ไปใช้หนี้ใช้กรรมผู้ใด ตายแล้วก็มาเกิดใหม่อีก

ถ้าไม่เป็นอริยบุคคลไปฉันแล้ว ตายไปแล้วไม่ได้กลับมาเกิดเป็นคนอีกนะ ลงไปใช้หนี้ใช้กรรมอยู่ในอบายภูมิ ชั้นใดชั้นหนึ่ง ฉะนั้นพระอยู่นี้ต้อง ให้เป็นผู้มีกายดีวาจาดีใจดีหมด เป็นบุคคลผู้ประเสริฐ กายประเสริฐ วาจาปรเสริฐ ใจประเสริฐ จึงสมควรรับ รับอาหุนะทาน ทานที่เราท่านทั้งหลาย ศรัทธาญาติโยมเค้า จัดเอาไว้ นำมาส่งที่วัดเรียกว่า อาหุนะทาน

ปาหุนะทาน ปาหุนะโย ทานที่อันศรัทธาญาติโยมเขา จัดเตรียมพร้อมแล้ว นิมนต์ไปฉันที่บ้าน เรียกว่าปาหุนะโย ทักขินะโย นั่น เป็นผู้ควรรับน่ะ พระอริยบุคคล จึงควรรับได้ หรือไม่งั้นก็เป็นผู้กำลังปฏิบัติอยู่ จึงควรรับ..

หลวงตาศิริ อินฺทสิริ - กุศลของการให้ทาน (23:19 - 26:04)

https://drive.google.com/file/d/0B6OG_Su4MwGZVGJvNXpNR2hDekk/view?usp=sharing

0 comments:

Post a Comment