10.12.16

..ไม่รู้จักวางจิตต์วิญญาณอันตนเข้ามาอาศัยอยู่ด้วย ลมของโลก ทำความเข้าใจว่าเป็นจิตต์ของตัว..

BY Somchatchai IN No comments

..ตทนฺตรํ ลำดับนั้น พระพุทธเจ้าจึงตรัสเทศนาต่อไปอีกว่า อานนฺท ดูก่อนอานนท์ บุคคลทั้งหลายที่หลงขึ้นไปบังเกิดในอรูปพรหม อันปราศจากความรู้นั้น ก็ล้วนแต่บุคคลผู้ที่ปรารถนาพระนิพพาน

แต่ไม่รู้จักวางใจให้สิ้นให้หมดทุกข์นั้นเอง ไม่รู้จักวางจิตต์วิญญาณอันตนเข้ามาอาศัยอยู่ด้วย ลมของโลก ทำความเข้าใจว่าเป็นจิตต์ของตัว และเข้าใจว่าพระนิพพานมีอยู่ในเบื้องบนนั้น

ตัวก็นึกเข้าใจเอาว่าจิตต์ของตัวขึ้นไปเป็นสุขอยู่ในที่นั้น ครั้นตายแล้วก็เลยพาเอาตัวขึ้นไปอยู่ในที่อันไม่มีรูป ตามที่จิตต์ตนนึกไว้นั้นฯ ดูก่อนอานนท์ผู้ที่หลงขึ้นไปอยู่ในอรูปพรหมแล้ว

และจักได้ถึงโลกุตรนิพพานนั้นช้านานยิ่งนัก เพราะว่าอายุของอรูปพรหมนั้นยืนนัก จะนับว่าเท่านั้นเท่านี้มิอาจนับได้ จึงชื่อว่านิพพานโลกีย์ ต่างกันแต่มิได้ดับวิญญาณเท่านั้น

ถ้าหากดับวิญญาณก็เป็นพระนิพพานโลกุตตระได้ ส่วนความสุขสำราญในพระนิพพานทั้ง ๒ นั้น ก็ประเสริฐเลิศเสมอกัน ไม่ต่างกัน

แต่นิพพานโลกีย์เป็นนิพพานที่ไม่สิ้นสุดเท่านั้น เมื่อสิ้นอำนาจของฌานแล้ว ยังต้องมีเกิด แก่ เจ็บ ตาย ร้าย และดี คุณและโทษ สุขและทุกข์มีอยู่เต็มที่

เพราะเหตุนั้น ผู้ใดผู้หนึ่งซึ่งจะปรารถนานิพพานพรหมไม่มีเลย ย่อมมุ่งต่อโลกุตรนิพพานด้วยกันทั้งนั้น

แต่ไม่รู้จักปล่อยวางวิญญาณจึงหลงไปเกิดเป็นอรูปพรหม ส่วนโลกุตตรนิพพานนั้นปราศจากวิญญาณ วิญญาณยังมีอยู่ในที่ใด ความเกิด แก่ เจ็บ ตาย ก็ยังมีอยู่ในที่นั้น..

บางส่วนจาก คิริมานนทสูตร (สำนวนเก่าโบราณ) หน้า ๒๐ - ๒๑

http://www.openbase.in.th/dhammanow008

0 comments:

Post a Comment