..เดี๋ยวนี้จิตมาหลงสังขาร อวิชชาปัจจะยา สังขารา จิตมันหลงสังขาร เราก็มาแจกสังขารออก ให้จิตให้ใจดู นี่ล่ะคือปัญญา อบรมจิต ท่านเรียกว่าจิตตภาวนา มาเข้าสมาธิ หลังจากออกสมาธิใหม่ๆหนิ จิตนุ่มนวล คู่ควรแก่การใช้งาน เราก็อบรมจิตของเรา จิตมาหลงกาย หลงใจ จิตมาหลงขันธ์ 5 จิตมาหลงสังขาร
อะไรคือสังขาร ก็มาแยกให้มันดู สังขารคือสิ่งผสมปรุงแต่งกันขึ้น สิ่งใดก็ตามในโลก วัตถุสองอย่าง ธาตุสองอย่าง อะไรก็ตามสองอย่าง มาผสมปรุงแต่งกันขึ้น สองอย่างขึ้นไป ปรุงแต่งกันขึ้น เค้าก็เรียกว่าสังขาร สังขารทั่วไป สังขารภายนอก สังขารภายใน สังขารภายนอกคือนอกตัวเราออกไปนี่แหละ สังขารภายในก็คือก้อนสกลกายของเรานี่แหละ
จิตก็มาหลงอยู่ตรงนี้ เราจึงมาแยกสังขาร ทำไมเค้าจึงเรียกว่าสังขาร ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศ วิญญาณ ธาตุทั้ง 6 มาปรุงแต่งกันขึ้น มาผสมกันขึ้น มาประชุมกัน มาปรุงแต่งกันขึ้น เค้าจึงเรียกชื่อว่าสังขาร สมมติชื่อว่าสังขาร นี่ล่ะสังขารภายในคือตัวเรา ก้อนสกลกาย นี่ล่ะ คือตัวเรา เรียกว่าสังขาร ไม่ได้ไปเรียกอยู่ที่อื่นสังขาร
กายก็คือรูป รูปก็ อะไรมาปรุงแต่งกันขึ้น กายสังขาร จิตสังขารนี่ กายสังขารก็มี ดิน น้ำ ลม ไฟ มาปรุงแต่งกันขึ้น ก็เรียกว่ากาย มาปรุงแต่ง ดินน้ำลมไฟ มาปรุงแต่งกันขึ้น จิตสังขาร ก็คือนาม 4 ไปปรุงแต่งจิตขึ้น จึงเรียกว่าจิตสังขาร เวทนา สัญญาน่ะไปปรุงแต่ง จิต จิตจึงเรียกว่าจิตสังขาร กายสังขาร จิตสังขาร สังขารนี่ล่ะ ก้อนสกลกายหนิ เค้าก็เรียกว่าสมมติว่าก้อนสกลกาย..
บางส่วนจาก ทำกรรมฐานให้มีสัจจะ (27:30 - 30:16)
พระธรรมเทศนา หลวงตาศิริ อินฺทสิริ วัดถ้ำผาแดง ผานิมิต
0 comments:
Post a Comment