..ธรรมครูบาอาจารย์ที่มาสั่งสอนพวกเรา ให้เราคำนึง ตั้งแต่ครั้งพระพุทธเจ้าๆ เป็นศาสดาองค์เอก เอกด้วยการฝึกฝนทรมานพระองค์เอง ทรมานถึงขนาดเดนตาย สลบไสล พอพ้นจากนั้นก็ได้เป็นพระพุทธเจ้าเพราะการทรมานอย่างหนัก
ทำไมถึงต้องทรมานอย่างหนัก เพราะกิเลสเป็นตัวสำคัญ เป็นตัวแสบที่สุด ไม่มีอะไรแสบเกินกิเลส ความโลภก็แสบ ความโกรธก็แสบ ความหลงก็แสบ ความรักก็แสบ ความชังก็แสบ ความเกลียดความโกรธแสบทั้งนั้น ไม่ใช่ของดี มีแต่ของแสบๆ
คนเราอยู่โดยไม่มีสิ่งเหล่านี้กวนใจ บีบบังคับใจ มันแสนสบาย นี่ยกมาเทียบกันนะ
ความรักก็กระเพื่อมขุ่นมัว เหมือนกับต่อยเข้าไปปึ๋งๆ ชังก็เปรี้ยงเข้ามาเจ็บๆ ความโลภ ความโกรธ ความหลง มีแต่ประเภทอาวุธต่อยกับเตะกับถีบทั้งสิ้น การไม่มีใครเตะใครต่อย อยู่สบายแสนสบาย
ท่านเทศน์เพื่อทำลายสิ่งก่อกวนยุแหย่ทั้งหลายให้กระจายออกๆ ขับไล่มันออกไป ไล่มันออกไป ขับออกไปด้วยอรรถด้วยธรรมอย่างอื่นขับไม่ได้ ต้องเอาธรรมขับ
กิเลสขับกิเลสก็เหมือนกับเพิ่มเชื้อไฟลุกส่งเปลวขึ้นจรดเมฆโน่น ถ้าเอาน้ำดับมันก็ดับลงได้
ธรรมเป็นน้ำดับไฟ ท่านสอนอย่างนั้น ไฟมันกองใหญ่ น้ำเพียงถังเดียวไม่พอ ต้องเอาน้ำเทลงไปให้มากกว่านั้น ไฟจึงจะดับ
กิเลสแต่ละตัวมันหนักแน่นมั่นคงมาก มันผาดโผนมาก ยิ่งกว่าสิ่งใดๆ ในโลก เราจะใช้การแนะนำสั่งสอนแบบงูๆ ปลาๆ ว่ากันไปอย่างนั้นไม่ได้ ต้องเอาให้หนักเพื่อสิ่งนั้นจะได้พังลงไป ความหมายเป็นอย่างนั้นดับไฟอันนั้น อันนั้นแหละจะเป็นเหตุเป็นผลให้ไฟเกิด และก่อความฉิบหายวายปวงไปโดยไม่มีประมาณเลย ดังนั้นจึงให้รีบระงับดับกัน พากันทำความเข้าใจด้วยดี เพื่อธรรมจะได้เข้าสู่ใจ ใจจะสงบสบาย..
http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=2352&CatID=2
บางส่วนจาก การติ-คุณภาพของมนุษย์
พระธรรมเทศนา หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
วันที่ ๑๘ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๒๕
20.1.16
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
0 comments:
Post a Comment